คำพูดที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม ก็ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย!
ถ้าเราได้มีโอกาสไปเที่ยว ไปเยือน ไปเรียนต่อที่ประเทศไหน เป็นธรรมดาที่เราก็อยากเรียนรู้วัฒนธรรมของเค้า
อิตาลี เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟมาอย่างยาวนาน สำหรับใครที่โอกาสได้ไป แนะนำให้ลองสั่งกาแฟ ด้วยคำศัพท์ตามแบบฉบับอิตาเลียนกันบ้าง รับรองว่านอกจากจะถูกใจบาริสต้า คุณจะได้กาแฟที่ถูกต้อง อย่างที่อยากดื่มอีกด้วย
“เอสเพรสโซ่” “คาปูชิโน” “ลาเต้” “มัคเคียโต้” เมนูที่คอกาแฟคุ้นหูกันดี มีต้นกำเนิดมาจากไหนกันนะ?
ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ออกจากบ้านทีไร ต้องไปซื้อกาแฟเป็นอย่างแรก!!? ArtVise อยากชวนมาดื่มด่ำกับเรื่องราวของกาแฟในประเทศต้นตำรับ อย่าง อิตาลี กันค่ะ
รู้หรือไม่ว่าที่อิตาลี คาเฟ่หรือร้านกาแฟ ที่อิตาลีเค้าเรียกกันว่า “บาร์” (bar) ส่วนใหญ่มักจะเป็นธุรกิจครอบครัวคนในท้องถิ่น ติดป้ายไว้ตัวใหญ่ๆ เลยว่า “BAR” คอนเซ็ปการดื่มกาแฟ ณ ร้านกาแฟที่อิตาลีนั้นแตกต่างจากที่อื่นพอสมควร เพราะมีธรรมเนียม 2 แบบ
- เลือกยืนดื่มตรงเคานท์เตอร์เลย (al banco อัล-บังโค่)
- นั่งที่โต๊ะ ซึ่งราคาต่างกัน แน่นอนว่านั่งโต๊ะแพงกว่ายืน (a tavola อา-ตา-โวล่า)
หลายร้านมักจะไม่มีเมนูติดไว้ให้เพราะลูกค้าส่วนใหญ่รู้ดีว่าจะสั่งอะไร แต่จะมีราคาติดไว้ 2 ราคา ราคาที่ถูกกว่าจะหมายถึงสำหรับสั่งทานตรงเคาทน์เตอร์บาร์ ราคาที่สูงกว่าคือราคาสำหรับนั่งโต๊ะ ไม่ว่าจะข้างในร้านหรือนอกร้าน ระบบการจ่ายเงินก็แล้วแต่ร้าน แต่ส่วนใหญ่มักจะให้ ‘จ่ายก่อนสั่งทีหลัง’ คือจ่ายเงินที่แคชเชียร์ เมื่อได้ใบเสร็จจึงนำไปโชว์ให้บาริสต้าแล้วสั่งกาแฟตามใจชอบ
Photo by Gabriella Clare Marino on Unsplash
สำหรับที่ไทยปกติเราอาจจะชินกับการสั่งไซส์แก้วด้วย แต่ที่นี่ไม่มีไซส์นะคะ ไม่ต้องไปบอก ทอล แกรนเด เวนตี อะไรทั้งนั้น แค่บอกชื่อกาแฟที่ต้องการไป สั่งอะไรก็ได้ยังงั้น
กาแฟที่คนอิตาเลียนนิยมดื่มมากที่สุดก็คือ เอสเพรสโซ่ เข้ม ๆ นี่แหละค่ะ แค่สั่ง “un caffè” (อุน-คัฟเฟ) คุณก็จะได้เอสเพรสโซ่มาเลย 1 ช็อตที่มาพร้อมกับฟองครีมสีน้ำตาลไหม้หน่อยๆ เรียกว่า crema อยู่บนผิวกาแฟค่ะ ถ้าอยากจัดหนักหน่อยเป็น 2 ช็อต ก็สั่งว่า “doppio” (=double) ได้ ไม่ต้อง “un espresso” เพราะคนอิตาเลียนเข้าใจกันแบบนั้นเป็นพื้นฐาน คำว่ากาแฟ = เอสเพรสโซ่ช็อต
การดื่มกาแฟเนี่ยเป็นวัฒนธรรมหลักของเค้าเลยนะ คนอิตาเลียนแวะเข้า ‘บาร์’ กันได้ตลอดทั้งวันไม่ว่าจะกี่โมงยามเพื่อสั่งกาแฟ และอาจทานคู่กับ cornetto (ครัวซองค์) biscotti (บิสกิตอัลมอนด์) หรือขนมอบอื่นๆ ถือเป็นกิจวัตรชาวอิตาเลียนก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี ในสายตาคนท้องถิ่น บาร์ที่อิตาลีส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานที่ที่เร่งรีบและจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ของคนทำงาน ต่างกับที่ไทยที่คนนิยมไปนั่งชิลนาน ๆ หรือถ่ายรูปดื่มด่ำบรรยากาศด้วย อิตาลีจะมีกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นสูงมาก ร้านกาแฟโลคัลตั้งอยู่เยอะแยะทั่วไป เรียบง่าย ของแท้ เพราะคนอิตาลีไม่นิยมเข้าร้านแฟรนไชส์ต่างชาติ
Photo by Valentina Locatelli on Unsplash
“เอสเพรสโซ่” “คาปูชิโน” “ลาเต้” “มัคเคียโต้” เมนูที่คอกาแฟคุ้นหูกันดี มีต้นกำเนิดมาจากไหนกันนะ?
รู้หรือไหมว่าชื่อเมนูกาแฟที่เราเรียกกันจนติดปากน่ะ มีรากศัพท์จากภาษาอิตาเลียนทั้งสิ้น “เอสเพรสโซ่” (espresso) เป็นศัพท์ในภาษาอิตาเลียน มีความหมายว่า “pressed-out” หรือ กด/อัด/บดจนได้ผลผลิตออกมา ซึ่งอธิบายกรรมวิธีการผลิตของเอสเพรสโซ่ได้อย่างตรงตัว นั่นคือการใช้เครื่องอัดแรงดันน้ำผ่านกาแฟเม็ดละเอียดเพื่อให้ได้มาซึ่งกาแฟรสเข้มในระยะเวลาที่รวดเร็ว
ทั้งนี้ อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น หากพูดถึง “กาแฟ” เฉยๆ ในหัวของคนอิตาลีก็คือ เอสเพรสโซร้อนเสิร์ฟในแก้วช็อตเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่มีแบบเย็น (นอกเสียจากจะขอน้ำแข็งเพิ่ม) ไม่มีอะไรอื่นผสม ดำและเข้มข้นด้วยรสชาติเมล็ดกาแฟแท้
Cervara di Roma Photo by Gabriella Clare Marino on Unsplash
“คาปูชิโน” (cappuccino) มีรากศัพท์มาจากคำว่า cappuccio ซึ่งเป็นคำเรียกหมวกคลุมศีรษะของคณะนักบวชคาทอลิกในอิตาลีนามว่าคณะกาปูชิน (Capuchin friars) ซึ่งมีสีน้ำตาลเหมือนกับสีกาแฟและเชือกพันรอบเอวสีขาวเหมือนกับนม คล้ายกับสีของคาปูชิโนที่ประกอบด้วย 3 ส่วนเท่าๆ กันคือ เอสเพรสโซ่ นมสตีมร้อน และโฟมนม ในสัดส่วน 1:1:1 ว่ากันว่า คาปูชิโนถือเป็นอาหารเช้า และคนอิตาเลียนแท้ๆ ไม่มีใครสั่งทานหลัง 11 โมงหรือหลังมื้ออาหาร จริง ๆ ก็น่าจะเพราะว่านมทำให้ย่อยยากนั่นแหละ
“ลาเต้” อันนี้อาจจะสับสนได้ง่าย เนื่องจากในมโนภาพคนไทย คำว่าลาเต้คือกาแฟผสมนม แต่ถ้าไปอิตาลี คำว่าลาเต้ (หรือจริงๆ คือ Latte – ลัตเต) นั้นแปลว่านม นมเพียวๆ ไม่มีกาแฟผสม ดังนั้นถ้าอยากได้ลาเต้แบบที่สั่งในไทยก็ต้องขอกาแฟเข้าไปด้วยคือ Caffè Latte จึงจะถูกต้อง
“มัคคีอาโต้” (macchiato) หรือชื่อเต็มในภาษาอิตาเลียนคือ Caffè macchiato นั้นแปลตรงตัวว่า กาแฟเปื้อน (coffee + marked) เพราะคำว่า macchiato แปลว่า marked; stained (ป้าย เปื้อน) ในที่นี้คือเปื้อนนม คอนเซ็ปต์ก็คือการเอานมมาป้ายกาแฟ ดังนั้นแล้ว ความหมายของมัคเคียโต้ในอิตาลีก็คือ เอสเพรสโซ่ 1 ช็อตที่เหยาะนมเพียงเล็กน้อยนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีเมนูในลักษณะตรงข้ามคือเอากาแฟมาป้ายนม หรือเทกาแฟลงบนนมโดยแยกชั้นกัน เรียกว่า Latte macchiato
พอเข้าใจถึงที่มาและความหมายของคำเหล่านี้แล้วรู้จักกาแฟมากขึ้นกว่าเดิมไหมคะ ? ใครที่ไปเยือนที่อิตาลี อย่าลืมลองสั่งกาแฟแบบคนท้องถิ่นดู และขอให้ดื่มด่ำกับกาแฟถ้วยโปรดของคุณ !!
Source