การเดินทางไกลกว่า 7,000 ปี ของ ‘Furniture Design’

Image credit : NABA
Master of Arts in Product and Service Design

รู้กันหรือไม่คะว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน มีต้นกำเนิดมาแล้วถึง 7,000 ปี เลยทีเดียว!! ผู้คนในยุคอดีตเอง ก็ต้องการความสะดวกสบาย จึงได้ประดิษฐ์คิดค้นเฟอร์นิเจอร์รูปแบบต่างๆ พัฒนาตามกาลเวลา ยุคสมัย จนมาถึงปัจจุบัน

เรามาย้อนวันเวลา กับการเดินทางของ Furniture Design 7,000 ปี กันค่ะ ว่ามีวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง

‘เฟอร์นิเจอร์’ คือ สิ่งที่มนุษย์เราสร้างขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงใช้เป็นของตกแต่งที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน ขนาดที่เรียกได้ว่าเฟอร์นิเจอร์อยู่คู่กับมนุษยชาติมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ แต่ก็มีผู้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์อย่างกว้างขวาง จนสามารถย้อนกลับไปจนพบเฟอร์นิเจอร์ของยุคหินใหม่ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่สามารถค้นพบได้ในขณะนี้

จากนั้นเฟอร์นิเจอร์ก็วิวัฒนาการผ่านประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนกระทั่งเป็นแบบที่เราเห็นกันในยุคปัจจุบัน ซึ่งรวมเป็นระยะเวลากว่า 7,000 ปี!

ในที่นี้เราแบ่ง ‘ยุค’ ของเฟอร์นิเจอร์เป็น 12 ยุค แต่จริง ๆ แล้ว การแบ่งยุคดังกล่าวไม่ได้ตายตัว เพราะบางยุคก็คาบเกี่ยวกันหรือเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในคนละพื้นที่

สารบัญเนื้อหา

ยุคต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ กดข้ามไปเนื้อหาที่สนใจตรงนี้ได้เลยนะคะ

  1. Neolithic Period Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคหินใหม่ (ประมาณ 5,500 – 2,500 ปีก่อนคริสตกาล)
  2. Ancient Egypt Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคอียิปต์โบราณ (ประมาณ 3,000 – 340 ปีก่อนคริสตกาล)
  3. Ancient Greek – Roman Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคกรีก – โรมันโบราณ (ประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 500)
  4. Medieval Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคกลาง (ศตวรรษที่ 5 – 15)
  5. Renaissance Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคเรเนซองส์ (ศตวรรษที่ 14 – 17)
  6. Jacobean Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคจาโคเบียน (ศตวรรษที่ 17)
  7. Colonial Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคล่าอาณานิคม (ศตวรรษที่ 17 – 18)
  8. 18th Century Furniture เฟอร์นิเจอร์ในศตวรรษที่ 18
  9. Revival Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุครีไววัล (ศตวรรษที่ 19)
  10. Art Nouveau Furniture เฟอร์นิเจอร์สไตล์อาร์ตนูโว (ปลายศตวรรษที่ 19)
  11. 20th Century Furniture เฟอร์นิเจอร์ในศตวรรษที่ 20
  12. Modern Furniture เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น (ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง)

1. Neolithic Period Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคหินใหม่ (ประมาณ 5,500 – 2,500 ปีก่อนคริสตกาล)

ค้นพบที่หมู่เกาะออร์กนีย์ ประเทศสกอตแลนด์ ลักษณะพิเศษ คือ ทำจากหิน มีตั้งแต่ ตู้ เตียง ชั้นวางของ เก้าอี้ พิเศษกว่านั้น ที่นี่เป็นที่ที่ “ตู้เก็บของ” ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกอีกด้วย

Image credit: Britain Express

2. Ancient Egypt Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคอียิปต์โบราณ (ประมาณ 3,000 – 340 ปีก่อนคริสตกาล)

สภาพอากาศอันแห้งจัดของอียิปต์เหมาะสำหรับเก็บรักษาวัสดุอินทรีย์เป็นอย่างดี จึงค้นพบเฟอร์นิเจอร์ไปทั่วทุกแห่ง เช่น พบเตียงเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสตกาลที่เมืองทาร์คาน พบเตียงและเก้าอี้ปิดทองเมื่อ 2,550 ปีก่อนคริสตกาลที่สุสานพระราชินีเฮเทเฟเรส พบกล่อง เตียง และเก้าอี้ที่เมืองธีบส์

ลักษณะพิเศษของเฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้ หากเป็นของกษัตริย์ จะมีการปิดด้วยทอง แต่หากเป็นของชาวบ้าน จะเป็นเก้าอี้ โต๊ะ ตะกร้าแบบเรียบง่าย

robertharding

Image credit: robertharding

Image credit: Heidi Kontkanen

3. Ancient Greek – Roman Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคกรีก – โรมันโบราณ (ประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 500)

เฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากอียิปต์โบราณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรูปร่างแข็ง ๆ และรูปทรงสี่เหลี่ยม

ต่อมาในศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา เฟอร์นิเจอร์กรีกโรมันเริ่มมีสไตล์เป็นของตัวเอง มีความมน อ่อนช้อย เน้นเส้นโค้ง และความลื่นไหลมากขึ้น หลักฐานคือเฟอร์นิเจอร์ที่ค้นพบจากการขุดค้นเมืองเฮอร์คิวเลเนียม และเมืองปอมเปอี ในปีค.ศ. 1738 – 1748 ซึ่งยังคงสภาพสมบูรณ์เพราะได้ขี้เถ้าจากการระเบิดของภูเขาไฟวิซุเวียส ในปีค.ศ. 79 ปกคลุมไว้ นอกจากนี้ Klismos chair เก้าอี้กรีกโบราณที่โด่งดังก็เกิดขึ้นในยุคนี้อีกด้วย

Image credit: designucdavis

4. Medieval Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคกลาง (ศตวรรษที่ 5 – 15)

สืบเนื่องจากความยิ่งใหญ่ของกรีกโรมัน อารยธรรมตะวันตกจึงกลายมาเป็นกระแสหลัก จากนี้ไปจึงจะพูดถึงพัฒนาการของเฟอร์นิเจอร์โดยยึดโยงกับฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมันในปัจจุบัน

เฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้จะโดดออกมาจากยุคก่อนหน้า เรียกได้ว่าเป็นภาพสะท้อนยุคกลางอันดิบเถื่อนได้เป็นอย่างดี ลักษณะพิเศษของเฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้ คือ การตกแต่งขอบเก้าอี้ และเตียงสี่เสาด้วยไม้แกะสลัก และใช้สีที่ให้ความหรูหราอย่างสีเทา เบจ และดำ รูปทรงส่วนใหญ่ของเฟอร์นิเจอร์มักจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ค่อยใช้เส้นโค้งและวงกลม

Image credit: Henry Shaw

Image credit: Thomas Quine

5. Renaissance Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคเรเนซองส์ (ศตวรรษที่ 14 – 17)

ยุคเรเนซองส์ หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการนั้น เริ่มต้นขึ้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี จากนั้นจึงได้แผ่ขยายอารยธรรมออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทางยุโรปเหนืออย่างเนเธอแลนด์ เบลเยียม และทางตอนเหนือของฝรั่งเศส แทนที่เฟอร์นิเจอร์รวมถึงศิลปะต่าง ๆ ในยุคนี้จะได้รับอิทธิพลจากยุคกลาง กลับย้อนไปนำเอาองค์ประกอบของยุคกรีกโรมันโบราณที่อ่อนช้อยมาแทน

เพิ่มเติมคือเฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้จะมีความหรูหราฟู่ฟ่าจากการตกแต่งด้วยการปิดทอง และเสริมด้วยลายดอกไม้พืชพรรณนานาชนิด โดยจุดประสงค์ของความประณีตบรรจงนี้มักจะเป็นการอวดถึงฝีมือของช่างฝีมือในยุคนั้น

Image credit: Louvre Museum Website

6. Jacobean Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคจาโคเบียน (ศตวรรษที่ 17)

ยุคจาโคเบียนเป็นยุคที่เกิด และดำเนินอยู่ในอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นปกครองโดยกษัตริย์ James ที่ 1 (ค.ศ. 1603 – 1625) ลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้มีความเรียบง่ายขึ้น เตี้ยลง และเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมากขึ้น อย่างในอังกฤษ ขาโต๊ะที่เคยเป็นเกลียวก็เริ่มตรง และแคบลง

เมื่อเข้าสู่สมัยของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (ค.ศ. 1653 – 1658) เฟอร์นิเจอร์เริ่มมีลักษณะที่แข็งและให้แสดงถึงความอัตคัด ซึ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และความยากจนที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น

อังกฤษกลับมาปกครองโดยราชวงศ์อีกครั้งในสมัยกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 (ค.ศ. 1660 – 1685) และเฟอร์นิเจอร์ก็ได้พัฒนาไปสู่สไตล์แครอเลียน ซึ่งมีความหรูหราขึ้น ลักษณะเด่น คือ โต๊ะที่แกะสลักด้วยลวดลายซับซ้อนพร้อมเบาะสีสันสดใส และประดับตกแต่งด้วยพู่

ในช่วงปลายยุคสมัย อังกฤษปกครองโดยกษัตริย์วิลเลียมที่ 3 (ค.ศ. 1689 – 1702) และพระราชินีแมรี่ที่ 2 (ค.ศ. 1689 – 1694) เฟอร์นิเจอร์ก็พัฒนาจนเกิดเป็นสไตล์วิลเลียม และแมรี่ ลักษณะเด่น คือ น้ำหนักเบาและหรูหรากว่าเก่า ขาโต๊ะมักเป็นรูปถ้วยคว่ำ มีการกลึงให้กลมแบน (bun foot) และมีความคดเคี้ยว

Image credit: Harper’s New Monthly Magazine

Image credit: International Studio (book)

Image credit: Harold Donaldson Eberlein, Abbot AcClure

Image credit: Harold Donaldson Eberlein, Abbot AcClure

7. Colonial Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุคล่าอาณานิคม (ศตวรรษที่ 17 – 18)

ในช่วงแรกของยุคล่าอาณานิคม ชาวยุโรปได้อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่เป็นประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน พร้อมทั้งนำเฟอร์นิเจอร์เข้าไปด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์จาโคเบียนและแครอเลียนจากชาวอังกฤษ

จากนั้นจึงพัฒนาเป็นสไตล์ของตัวเอง โดยจะยังมีความคล้ายคลึงกับยุคก่อนหน้าตรงที่ขาของเฟอร์นิเจอร์มักเป็นรูปถ้วยคว่ำ และมีการกลึงให้กลมแบน หากแต่เน้นความแข็งแรงทนทานเพื่อประโยชน์ใช้สอย

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ของชาวดัตช์ที่อพยพเข้ามาอยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือก็มีแก่นคล้ายกับอังกฤษ แต่แตกต่างกันไปในรายละเอียด ส่วนชาวสเปนอพยพเข้ามาอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวและมีพันธุ์ไม้แตกต่างจากที่อื่น จึงพัฒนาสไตล์ใหม่ขึ้นมา คือ สไตล์มิชชั่นหรือตะวันตกเฉียงใต้ (Mission style or South western style)

ราวปีค.ศ. 1660 นิโคลัส ดิสบราว (Nicholas Disbrowe) สร้างหีบซึ่งถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์อเมริกันยุคแรกขึ้นมา ลักษณะพิเศษ คือ เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีการแกะสลักอย่างโดดเด่น

Image credit: MET Museum Website

8. 18th Century Furniture เฟอร์นิเจอร์ในศตวรรษที่ 18

เฟอร์นิเจอร์พัฒนาอย่างมากในยุคนี้ อีกทั้งยังไม่มีสไตล์ที่เป็นตัวแทนของยุคอย่างสมัยก่อน แต่กลับเกิดสไตล์ขึ้นมากมายในหลายพื้นที่ เช่น สไตล์ปัลลาดีโอในสหราชอาณาจักร สไตล์หลุยส์ที่ 15 ในฝรั่งเศส และสไตล์รอคโคโค และนีโอคลาสสิก ที่เห็นได้ทั่วยุโรปตะวันตก

นอกจากนี้ยังมีสไตล์อื่น ๆ อีก ได้แก่ William and Mary, Queen Anne, Georgian, Chippendale, Hepplewhite, Sheraton, Adam, Regency และ Federal ในสหราชอาณาจักร และสไตล์ Louis, Directoire และ Empire ในฝรั่งเศส

จุดร่วมของเฟอร์นิเจอร์ยุคนี้ คือ มีความซับซ้อน และประณีตเป็นอย่างมากเพราะช่างฝีมือผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของช่างฝีมือโดยแท้จริง

Image credit: Louvre Museum Website

9. Revival Furniture เฟอร์นิเจอร์ยุครีไววัล (ศตวรรษที่ 19)

การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนโฉมหน้าของอารยธรรมมนุษย์อย่างแท้จริง ผู้คนต่างเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อเป็นแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อคนมากจึงต้องเร่งผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการจนเกิดเป็นการผลิตแบบ mass production ที่ผลิตสินค้าได้ทีละมาก ๆ สวยงาม และราคาถูก ทำให้งานฝีมือในยุคก่อนตายไป

ในส่วนของการออกแบบ มีการนำสไตล์เก่า ๆ มาใช้ จึงเรียกเฟอร์นิเจอร์ยุคนี้ว่า ‘รีไววัล’ เป็นการฟื้นฟูสไตล์ดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ เช่น สไตล์โกธิครีไววัล นีโอคลาสสิกรีไววัล และรอคโคโครีไววัล

Image Credit: LACMA

10. Art Nouveau Furniture เฟอร์นิเจอร์สไตล์อาร์ตนูโว (ปลายศตวรรษที่ 19)

Art Nouveau เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ศิลปะใหม่ สไตล์นี้ได้รับอิทธิพลจากภาพพิมพ์หินโดยศิลปินชาวเช็กชื่อว่า อัลโฟนส์ มูคา งานของเขาโดดเด่นตรงความแบน และการใช้เส้นโค้ง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับศิลปะตามขนบในยุคก่อน ๆ ลักษณะพิเศษของเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้จึงเป็นการใช้เส้นโค้ง และการใช้ไม้เนื้อแข็ง และเหล็กเป็นโครงเพื่อความมั่นคงแต่ยังคงความเพรียวบางตามแบบฉบับอาร์ตนูโว

Image credit: MET Museum Website

Image credit: Ecole de Nancy Museum Website

11. 20th Century Furniture เฟอร์นิเจอร์ในศตวรรษที่ 20

เนื่องจากในยุคนี้มีวัสดุหลากหลายกว่าสมัยก่อน และการรับรู้ถึงสุนทรียภาพทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแผ่เป็นวงกว้าง ทำให้เฟอร์นิเจอร์มีความแตกต่างในแง่ของสไตล์มากกว่าทุกยุคสมัยรวมกัน โดยสไตล์ที่เกิดขึ้นในยุคนี้ คือ Art Deco, De Stijl, Bauhaus, Wiener Werkstatte และ Vienna ซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) ทั้งสิ้น

หนึ่งในดีไซน์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโมเดิร์นดีไซน์ คือ สไตล์เบาเฮาส์ ก่อตั้งในปีค.ศ. 1919 โดยวอลเตอร์ โกรเปียส สถาปนิกชาวเยอรมัน เกิดจากแนวคิดในการ ‘รวม’ ศิลปะทุกแขนงเข้าด้วยกัน

อีกสไตล์หนึ่งที่โดดเด่น คือ สไตล์อาร์ตเดโค เกิดขึ้นในปารีสช่วงทศวรรษที่ 1920 เน้นสื่อถึงความสง่า ความเย้ายวน การใช้สอย และความทันสมัย ลักษณะของศิลปะสไตล์นี้ คือ ความสมมาตรของเส้น ซึ่งจะแตกต่างจากยุคก่อนหน้าอย่างอาร์ตนูโวที่เน้นการใช้เส้นโค้งที่ไม่สมมาตร (หากนึกภาพไม่ออก ให้ลองไปดูหนังเรื่อง The Great Gasby) ความนิยมของสไตล์นี้เริ่มลดลงในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 และในที่สุดก็หายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

Image credit: Harvard Art Museum Website

12. Modern Furniture เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น (ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง)

เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นต่อยอดมาจากสไตล์เบาเฮาส์ และอาร์ตเดโค แต่หันมาใช้วัสดุที่พัฒนาขึ้นในช่วงสงครามแทน เช่น ไม้อัดเคลือบ พลาสติก ใยแก้ว เหล็กกล้า ลักษณะเฟอร์นิเจอร์ยุคนี้จะเปลี่ยนจากไม้แกะสลักสีทอง และผ้าลวดลายสวยงาม รูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายผสมความวาวจากโลหะขัด และแสวงหารูปแบบที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสื่อถึงปัจจุบัน และอนาคต ต่างจากยุครีไววัลที่ใช้นวัตกรรมย้อนกลับไปหาอดีต ทำให้ยุคนี้เกิดการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี และศิลปะ กล่าวได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกหนทางดีไซน์ใหม่ ๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

Image credit: Bohinc Studio

Image credit: jozzeppe

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ประวัติศาสตร์การเดินทางอันยาวนานกว่า 7,000 ปี ของเฟอร์นิเจอร์ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละยุค รวมถึงพัฒนาการด้านสังคม และวัฒนธรรม ตอนนี้วิวัฒนาการของเฟอร์นิเจอร์ก็ยังคงเดินทางอยู่ตราบเท่าที่มนุษย์ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากนี้ไปประวัติศาสตร์เฟอร์นิเจอร์จะหน้าตาเป็นแบบไหน เราอาจเป็นผู้กำหนดมันก็ได้

สำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ก็สามารถสอบถามข้อมูลสถาบันชั้นนำๆ ที่เปิดสอน ทั้งในระดับ ป.ตรี ป.โท และหลักสูตรระยะสั้น กับเราได้เลยนะคะ เราอยากเห็นน้องๆ เป็นส่วนหนึ่งของผู้กำหนดทิศทางการออกแบบในวงการเฟอร์นิเจอร์!!

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และข้อมูลทุนการศึกษา สามารถทักแอดมินของเราได้เลยค่ะ ที่ Line: @artvise_education

เรียนออกแบบ Product Design & Furniture Design ที่ไหนดี

สถาบันชั้นนำที่เปิดสอนด้าน Product Design และ Furniture Design

DOMUS ACADEMY

Milan, Italy

read more

ISTITUTO MARANGONI

Milan-Florence-Paris-London

read more

NABA

Milan – Rome, Italy

read more

POLI.Design

Milan, Italy

read more

สรุป

การออกแบบในแต่ละยุคสมัยนั้นล้วนมีเรื่องราว ความนิยมที่แตกต่างกัน ซึ่งหากสนใจที่จะเป็นนักออกแบบแล้ว อย่ารอช้านะคะ ทักษะการออกแบบนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝนได้ สถาบันออกแบบที่เราดูแล นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการทำงานด้านออกแบบ พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติ ทำผลงานจริง ร่วมกับบริษัท และแบรนด์ต่างๆ รวมถึงฝึกงานก่อนเรียนจบ