Review ArtVise Education
พี่ๆ ใจดีเป็นกันเองมากๆค่ะ สอบถามได้ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องขั้นตอนการสมัคร เอกสารต่างๆ รวมถึงเรื่องที่พัก ทำให้การไปเรียนต่อง่ายขึ้นไปหลายสเตปเลยค่ะ เวิค ๆๆๆ
WORAVEERIN JIVACATE
– Cha-Aim –
Creative Advertising
สาขานี้จะเรียนผสมผสาน ระหว่างงานกราฟฟิก และเขียนคอนเท้นต์ เนื้อหาจะรวมตั้งแต่กราฟฟิก เทคนิคตัดต่อ ทำ VDO เทคนิคการทำโฆษณาลงสื่อต่างๆ ทั้ง Offline Online จนกระทั่งการครีเอท Content ให้คนหยุดดู จึงเป็นสาขาที่เรียกได้ว่ารวมงาน Art Director กับ Content Writer เข้าไว้ด้วย
หลักสูตรการเรียนการสอน
MAIN SUBJECTS
- ADVERTISING
- SOCIOLOGY OF CULTURAL PROCESSES
- PROJECT DESIGN
- ART DIRECTION
- AUDIOVISUAL DOCUMENTATION
- TECHNIQUES DIGITAL TECHNOLOGIES AND APPLICATIONS
- INTEGRATED NEW MEDIA
เรียนจบสายนี้ ทำงานอะไรได้บ้าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบัน โลก Online ได้มีบทบาท และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน ตลอดจนบทบาท และเนื้อหาของการทำงานโฆษณาไปอย่างมาก บริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ล้วนต้องการครีเอทีฟ มาช่วยออกไอเดีย และการทำโฆษณา ให้มีความโดดเด่น แตกต่างเหนือคู่แข่ง เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
หลายครั้งเราจึงเห็นว่าบริษัทเล็กๆ ที่มีการทำโฆษณาที่โดดเด่น สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงใจ ก็สามารถกลายเป็นไวรัล และเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้โดยไม่ยาก
ดังนั้น อาชีพในกลุ่มนี้ จึงมีงานรองรับหลากหลาย อาทิ
- Art director
- Graphic designer
- Copywriter
- Creative storyteller
- Creative account manager
- Advertising consultant
- Product and/or brand manager
- Promotion and PR manager
- Communication planner
แนะนำตัวสั้นๆ กันนิดนึงค่ะ
“ชะเอม” เรียนจบ ปริญญาตรี จาก School of Architecture and Design (SoA+D) และได้เดินทางไปเรียนต่อ สถาบัน NABA, Milano Italy ในช่วงปี 2018 ปัจจุบัน ชะเอม ทำงานด้าน Content Writer บริษัท We Are InnoSense Co., Ltd.
ภาพรวมคอร์ส Creative Advertising ที่ NABA เรียนเป็นยังไงบ้างคะ ?
ช่วงเปิดคอร์สใหม่ๆจะเป็นช่วง lecture ก็จะมี Guest ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาสอน มีเวิร์คชอป การบ้านย่อยๆ ให้ได้ลองทำ หลังจากได้ไอเดีย เห็นภาพคร่าวๆเกี่ยวกับการเรียน Advertising แล้ว ก็จะเน้นปฏิบัติ ทำงานจริงๆ เน้นทีมเวิร์ค โดยการทำงานจะเป็นงานกลุ่ม อาจารย์ก็จะจัดโดยแยกจาก skill ที่นักเรียนแต่ละคนมี เช่น บางคนอาจจะเก่งกราฟฟิค บางคนเก่งคิดก็อปปี้ หรือเก่งเรื่อง Strategy แล้วฟอร์มทีมขึ้นมา ได้ทำบรีฟจริง และได้ pitch งานแข่งกันกับทีมอื่นๆเป็นสีสัน บางโจทย์ก็ได้ส่งผลงานเข้าเวทีประกวดใหญ่ๆ เช่น D&AD ก่อนจบคอร์ส ก็จะมีการฝึกงาน ซึ่งจุดนี้คิดว่าดีมากๆ
อาจารย์ส่วนใหญ่ที่มาสอนเป็นใครบ้างคะ ?
ส่วนใหญ่อาจารย์ก็จะเป็นคนในวงการโฆษณา มาจากเอเจนซี่ดังในอิตาลี บางคนก็เป็น Copywriter บางคนเป็น Art Director การสอนก็จะเป็นแนวให้ปรึกษา ให้คำแนะนำในโจทย์ต่างๆ // อย่างมีอาจารย์คนนึงเก่งมาก ชื่อ Emanuele Nenna – เป็น Co-founder และ CEO ของ เอเจนซี่ The Big Now
NABA
International Academy of Art & Design
workshop ตอนเรียน ได้ทำอะไรบ้าง ทำงานร่วมกับใครบ้างคะ ?
เวิร์คชอปหลักๆจะทำร่วมกับเอเจนซี่ต่างๆ โดยอาจารย์ที่มาจากเอเจนซี่จะคอยแนะนำในแต่ละขั้นตอน ช่วยตั้งแต่การคัดเลือกไอเดีย แนะแนวทางการทำงาน ไปจนถึงสอนการสร้าง Presentation ก่อนนำงานไปเสนอกับลูกค้า
เอเจนซี่ที่เคยร่วมงานด้วยก็จะมี The Big Now, DUDE (ชอบที่สุด เก๋มาก), We Are Social แบรนด์ที่ทำร่วมด้วยก็หลากหลายมาก มี Non profit organization ก็มี เช่น Food For Soul, Pubblicità Progresso หรือแบรนด์อื่นๆก็เช่น Riva 1920 เป็นต้น
หลักสูตรจะเน้นการทำงานเป็นกลุ่ม แชร์ความถนัด และความสนใจ เพราะฉะนั้นเวลาจะแบ่งกลุ่มก็จะเริ่มจากการจับกลุ่มคนที่มีความถนัดต่างๆกันไป เพื่อจะได้ช่วยกันได้ จบงานในทีม โดยอาจารย์ หรือเอเจนซี่ก็จะคอยแนะนำในการทำงาน เพื่อนในคลาสจะมาจากหลากหลายชาติมากๆ เลยทำให้เวลาทำงานด้วยกันมันสนุกขึ้น เหมือนได้แลกเปลี่ยน ได้แชร์กันในเรื่องที่บางทีเราก็เพิ่งรู้ว่ามันมีแบบนี้ด้วย
ทุกๆเวิร์คชอปจะเริ่มมาจาก การรับบรีฟ ว่าต้องทำอะไร เป้าหมายคืออะไร จากนั้นคิดไอเดีย ทำ Presentation ออกมา เพื่อนำไป Pitching กับทีมอื่นๆ โดยระยะเวลาการทำงานก็จะประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อ 1 โปรเจค มีการพรีเซนต์ให้ทั้งคลาสฟัง รวมถึงเอเจนซี่และลูกค้าซึ่งก็คือแบรนด์ที่เราทำร่วมด้วย ส่วนใหญ่แล้ว ถ้า Pitching ชนะ งานที่เราทำก็จะได้เอาไปทำจริงๆ รู้สึกเท่มาก 5555
ฟังดูสนุกสนาน ประสบการณ์เยอะมากๆ ก่อนเรียนจบ ชะเอมได้ไปฝึกงานที่ไหนคะ ?
ได้ไปฝึกงานเป็น Graphic Designer ที่ idLab ค่ะ ฟังดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวกับโฆษณา แต่จริงๆแล้วมันคาบเกี่ยวกันอยู่นะ เป็นการเปิดมุมใหม่ๆของสายอาชีพครีเอทีฟ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ค่อนข้างจะออกจาก comfort zone ต้องยอมรับว่า เมื่อก่อนไม่ชอบทำกราฟฟิคเลย ชอบเขียนมากกว่า แต่พอได้ลองทำ ก็เอ้ย ทำได้นี่ ก็สนุกดี แต่เดิมเกลียดการทำ Motion Graphic มากกกกก คิดว่าชีวิตนี้จะไม่แตะอีกแล้ว แต่พอมาฝึกงาน ต้องทำ พี่ที่ออฟฟิศก็สอนดีมาก คือใจเย็นสุด 55 เข็นกันจนเสร็จออกมาเป็นงาน ได้ลงเพจจริงๆ ก็รู้สึกดีค่ะ
สรุป การไปเรียน ป.โท เราได้อะไรกลับมาบ้างคะ ?
มันดีมาก นี่ยังอยากกลับไปอยู่เลยไปปีเดียวแต่มันให้อะไรเราหลายอย่างมาก ทุกวันนี้เป็น Content Writer ก็ยังได้เอาหลักของการทำโฆษณามาใช้ ตอนอยู่ที่มิลาน ได้ลองทำเรื่องใหม่ๆที่ท้าทายตัวเองหลายเรื่องมาก ได้เจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่มาจากทั่วมุมโลก (ได้ค้นพบว่ากาแฟที่นู่นดีมาก 555)
พอกลับมาเราก็ได้นำสิ่งที่เราเรียนรู้ กลับมาพัฒนาในสายงานของตัวเอง ซึ่งนี่ก็คืออีกเหตุผลหลักที่ตัดสินใจไปเรียนต่อ ป.โท ค่ะ 😉
ขอบคุณ คุณเอม สำหรับรีวิวเรียนต่อ
ติดตาม ครีเอทีฟ คนนี้ได้
Follow IG: chaaim.on.you
สนใจเรียนต่อ ปริญญาโท สาขา Creative Advertising
สถาบัน NABA, Milan Italy
ปรึกษาเราได้เลยนะคะ ให้คำแนะนำโดยศิษย์เก่าจากทางสถาบัน ละเอียดทุกขั้นตอน บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย