Review ArtVise Education
พี่ๆตอบคำถามรวดเร็ว ช่วยเหลือทุกขั้นตอนการสมัครเรียน ปรึกษาได้ทุกเรื่อง น่ารักใจดี อบอุ่น ไม่เคว้งแน่นอน ขอบคุณมากค่า
M.L. ORNICHA CHAKRABANDHU
– Toey –
Business Design
สาขาบริหารยอดนิยมอันดับหนึ่ง ตอบโจทย์ผู้ที่เรียนจบด้านออกแบบ ที่ต้องการต่อยอดความรู้บริหารเพื่อทำงานบริหารในองค์กร หรือผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง ทั้ง sme และ Start Up นอกจากนั้นสาขานี้ยังเหมาะกับนักศึกษาที่เรียนจบจากสายบริหาร หรือสาขาอื่นๆ ที่เล็งเห็นว่าการออกแบบ หรือแนวคิด Design Thinking นั้น มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบันอย่างมาก
เรามีนักศึกษาที่เรียนจบหลายรุ่น และประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ โดยใช้แนวคิด Design Thinking และ Innovative Thinking เป็นกลไกสำคัญในการต่อยอด ดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ตอบโจทย์กับโลกปัจจุบัน และ User ที่เปลี่ยนไป
ทำความรู้จักกับศิษย์เก่า ซักนิดนึงค่ะ
“เตย” จบการศึกษาระดับ ป.ตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาสถาปัตยกรรมภายใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับ ป.โท ที่ สถาบัน Domus Academy ในช่วงปี ค.ศ. 2017 ปัจจุบัน เตยทำงานเป็น Creative Event ที่บริษัท ZAAP PARTY CO., LTD
Business Design สาขาบริหารยอดนิยม
– Meet our Master in Business Design student –
ทำไมถึงตัดสินใจไปเรียนต่อ ป.โท ที่สถาบัน Domus Academy ?
ก่อนหน้านี้เตยเรียนจบ ป.ตรี ด้าน interior มา แล้วก็เริ่มทำงานด้านนี้มาพักนึง แต่อยากรู้อะไรที่มันกว่าการออกแบบ ก็เลยหาคอร์ส ด้าน Business บวกกับได้เคยได้ยินชื่อเสียงของสถาบัน Domus Academy มาตั้งแต่ตอนเรียนเลย แล้วยิ่งเป็นโรงเรียนดีไซน์ ในเมืองมิลาน ที่ขึ้นชื่อด้านการออกแบบ และศิลปะด้วย ก็เลยสนใจที่นี่ ลองเสิร์ชหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็มาเจอ ArtVise เลยลองติดต่อ และได้มาฟังสัมมนาข้อมูลโปรแกรมกับพี่ๆที่นี่ พอตัดสินใจได้แล้วก็ทำเรื่อง สมัครเรียน หาที่พัก โดยมี ArtVise คอยช่วยเหลือในทุก ๆ ขั้นตอนค่ะ
ภาพรวมของคอร์ส Business Design เป็นยังไงบ้างคะ ?
ด้วยความที่คอร์สนี้มันเป็นคอร์สที่เรียนเกี่ยวกับทั้ง Business และ Design นักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาเรียนจะมีความรู้แค่ด้านใดด้านหนึ่ง เช่น จบ business มา หรือ จบด้าน design มา ช่วงแรกจะเป็นการปูพื้นฐานของทั้งสองด้าน เหมือนเป็นการปรับ DNA
เนื้อหาหลัก ๆ ของคอร์สนี้จะเป็นการเน้นการพัฒนาธุรกิจใหม่ และพัฒนาธุรกิจที่มีอยู่ให้ขายได้เพิ่ม หรือต่อยอดได้อย่างไร โดยนำการออกแบบ หรือแนวคิดเชิงสร้างสรรค์มาช่วยแก้ปัญหา
เรียนรู้ strategy, core value ของแบรนด์ รู้จักจุดอ่อน-จุดแข็งของตัวเอง และคู่แข่ง
หาทางพัฒนาจุดแข็ง หรือกลบจุดอ่อนของเรา และทำธุรกิจให้ออกมาตอบโจทย์กับ lifestlye / trends และแตกต่างจากแบรนด์ หรือบริษัทอื่น ๆ
DOMUS ACADEMY
The Most Visionary Postgraduate Design School
ช่วยเล่าการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร คอร์ส Business Design ?
ด้วยความที่คอร์สนี้มันเป็นคอร์สที่เรียนเกี่ยวกับทั้ง Business และ Design นักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาเรียนจะมีความรู้แค่ด้านใดด้านหนึ่ง เช่น จบ business มา หรือ จบด้าน design มา ช่วงแรกจะเป็นการปูพื้นฐานของทั้งสองด้าน เหมือนเป็นการปรับ DNA
ในห้องเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นการทำงานกลุ่ม และการพรีเซนต์ อาจารย์จะคอยคอมเมนต์งานเรา ซึ่งอาจารย์ส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาเลียนที่อยู่ในวงการธุรกิจ และวงการออกแบบ ในหลายๆ ครั้ง จะมีวิทยากรเจ้าของแบรนด์มาบรรยาย หรือมี workshop กับคนที่ทำงานด้านนั้นจริง ๆ
นอกจากนี้จุดเด่นของ Domus ก็คือ การมี cross-functioned หรือการเรียนร่วมกับนักศึกษาคอร์สอื่น ๆ เช่น มี workshop ร่วมกันระหว่างนักศึกษาสาขา Business Design และ Visual Brand Design ซึ่งมันทำให้เกิด Transition ในการเรียนรู้ศาสตร์ที่ตัวเองเรียน และศาสตร์อื่น ๆ
คอร์ส Business Design ก็เรียนภาคปฏิบัติใช่มั้ยคะ ฝากเล่าว่าได้ทำอะไรบ้าง ?
ที่ Domus การเรียนการสอนจะเน้นเป็นภาคปฏิบัติทุกสาขา ไม่ว่าจะเรียนออกแบบ หรือบริหาร จะได้ทำ workshop กับบริษัททั้งหมด 4 workshop แต่ละสาขาจะได้ทำ workshop ทั้งหมด 4 projects เป็นตัวบังคับของสาขา 2 projects แรก แล้วหลังจากนั้นก็อิสระ คือสามารถไป join กับโปรแกรมอื่นได้เลย อีก 2 projects หลัง
อย่างสาขา Business Design ที่เตยเรียน ก็ได้ทำงานร่วมกับบริษัทจากหลากหลายธุรกิจ
I. อันแรกเป็น Workshop กับสเก็ตบอร์ดแบรนด์ Italian ชื่อ Bastard ขายสเก็ตบอร์ด เสื้อผ้า และอุปกรณ์เล่นสเก็ตบอร์ด เอกลักษณ์ของแบรนด์ คือ ความคงทนแข็งแรงของเนื้อผ้า ตอนนั้น Workshop นี้ ได้ทำร่วมกับ สาขา Visual Brand Design แต่โจทย์ที่ได้จะต่างกัน เราจะได้รับโจทย์ให้ต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้ว
ใน Workshop นี้ เราได้ฝึก การทำ Research การสร้าง Story Telling การ Survey ได้ใช้ทั้ง Strategy และ Design เข้ามาช่วยทำออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง ต้องไม่ลืมคิดถึงคู่แข่ง และความเป็นไปได้ต่างๆ ทำออกมาเป็น Business Model เลย แต่ละกลุ่มก็จะต้องศึกษาไปในแนวทางของตัวเอง ตอนนั้นกลุ่มเตยนำเสนอ Product Line ใหม่เลย โดยศึกษาจากสิ่งที่แบรนด์มี และ lifestyle ความชอบของคน และ Trend ของตลาดด้วย ซึ่งผลปรากฎว่า เจ้าของแบรนด์ชอบด้วย แฮปปี้มาก นอกจากนี้เราก็ได้ดูพรีเซนต์ของกลุ่มอื่น และสาขาอื่น สนุกมาก ได้เห็นสิ่งเดียวกันในมุมมองที่แตกต่างกันไป
II. Workshop ที่สอง เราก็ภูมิใจมากเพราะได้คะแนนเต็ม! ทำร่วมกับเว็บ Kickstarter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้คนที่มีไอเดีย สามารถนำเสนอโปรเจค ให้คนดู และหาคนระดมทุนเพื่อนำเงินนั้นไปสร้างกิจการ ก็คือเราต้องคิด Business ออกมา แล้วพรีเซนต์ให้เว็บนี้ฟัง
Workshop นี้เราต้องเริ่มจากศูนย์ คือ เสิร์ชหา Trend ในตลาด และ Trend ของเว็บดังกล่าว เพื่อดูว่ามีธุรกิจไหนนำเสนอออกไปแล้วสำเร็จบ้าง เราก็เลือกทำอะไรที่แตกต่างออกไป และช่วงนั้นเป็นช่วง Design Week พอดี เลยเจออะไรสนุกๆ เยอะ เราก็นำไปผสมผสานกับไอเดียของเรา มาสร้างเป็น Business Model เราต้องทำ mock up สินค้าที่จะนำเสนอด้วย ภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียว ลุ้นมาก ๆ แต่ได้คะแนนเต็มสำหรับ workshop นี้ ดีใจมาก
III. Workshop ที่สาม เป็น workshop ที่ collab กับเรือครูส ชื่อ Viking Cruise จุดประสงค์ คือ หาวิธีโปรโมตให้น่าสนใจ แตกต่างจากของเดิมที่ทางบริษัททำอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ค่อยตามเทรนด์มาก เราต้องหาวิธีโปรโมตเพื่อให้คนสนใจมากขึ้น ก็ลองหยิบพวกเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่ม engagement ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์
โปรเจคนี้ นักศึกษาจะได้อิสระในการ join งานกับสาขาอื่น ๆ มากขึ้น การทำงานครั้งนี้ เลยมีนักศึกษาจากหลากหลายสาขา เช่น Interaction ก็จะเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี workshop นี้พิเศษตรงที่ว่า เราได้นั่งรถไปดูงานที่ต่าง ๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ไปตามมิวเซียมต่าง ๆ แบบเป็น one-day trip แล้วทางเจ้าของแบรนด์ ก็ให้เข้าไปดูภายในเรือ เพื่อดูวิธีการทำงาน และบริหาร รวมถึง core value ของเค้า และเราก็นำโจทย์เหล่านี้มาทำโปรเจค เพื่อนำเสนอ strategy ให้กับทางแบรนด์
IV. Worskhop สุดท้าย ทำร่วมกับนิตยสาร Wired Magazine มีนักศึกษาจากหลากหลายสาขาเหมือนเดิม โจทย์คือให้คิด Theme Event สำหรับปีหน้า (2018) และโปรโมตด้วย คือต้องทำให้สิ่งที่มีอยู่ พิเศษมากขึ้น และเสนอไอเดียใหม่ ๆ ช่วงนั้นเทรนด์เทคโนโลยีล้ำ ๆ กำลังมา ก็เลยใช้เทคโนโลยีนี่แหละเข้ามาช่วย workshop นี้เราได้ไปดูงานที่เมือง Florence ด้วย ซึ่งเป็นสถานที่จริงที่ใช้ในการจัดงาน แล้วก็ได้สัมภาษณ์ ทำเซอร์เวย์ ประมวลผล แล้วนำเสนอ
*หมายเหตุ โจทย์ และบริษัทที่มาร่วม ทำ workshop จะเปลี่ยนแปลงตลอด ทุกปี ตัวอย่างบริษัทที่ยกมานั้น เป็นเพียงบริษัทบางส่วนที่ร่วมกับทาง Domus Academy*
นอกจากเวิร์คชอปตอนเรียนในคลาส แล้วทาง Domus Academy มีกิจกรรมเสริมอื่นๆอีกมั้ยคะ ?
มีค่ะ นอกจากงานในคลาส ทาง Domus จะมีกิจกรรมอื่นๆ ทั้งประกวด สัมมนา เตยได้ร่วมกิจกรรมประกวดของทาง Domus ที่ประทับใจมาก อย่าง Design Marathon เป็นกิจกรรมการประกวดการออกแบบที่จัดโดยทางสถาบันเอง จัดขึ้นทุกปีในช่วง Design Week ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งเมืองจะกลายเป็น showcase ของแบรนด์และมหาลัยต่างๆ เลย
การประกวด Design Marathon นักเรียนจะร่วมหรือไม่ร่วมก็ได้ เพราะเป็นกิจกรรมสั้นๆ ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 48 ชั่วโมง ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากๆ ทุกคนจะได้รับบรีฟ หรือโจทย์การทำงานมาจากบริษัทที่มาเป็นโจทย์ ซึ่งจะแจ้งในตอนเช้าวันแรกของวันที่จัดกิจกรรม แล้วพอสักช่วงบ่ายของวันที่สอง เราจะต้องพร้อมที่จะพรีเซนต์ไอเดียของเราให้กับแบรนด์แล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องบริหารเวลา แบ่งหน้าที่กันในทีมให้ดี ตอนนั้นกลุ่มเตย มีหลายสัญชาติ ทั้งคนไทย เกาหลี ที่เรียนสาขาต่าง ๆ กันอยู่ในทีมเดียวกัน
ตอนนั้นมี กลุ่มเตยเลือกหัวข้อของแบรนด์แฟชั่นกระเป๋าแบรนด์นึง แข่งกันประมาณ 8-10 ทีมเลย คือพอได้โจทย์ปุ๊บ เราก็ต้องมาช่วยกันคิดในกลุ่ม ว่าจะทำอะไร แล้วแบ่งหน้าที่เลย เพราะเวลามีน้อยมาก ใครถนัดอะไรก็ทำอันนั้น และต้องรีบทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างเร็วที่สุด
เพื่อนคนนึงเรียน Product ทำภาพ 3D ได้ ก็จะเรนเดอร์งานออกมาเป็นภาพสามมิติ อีกคนเรียน Visual ทำกราฟิก รีทัชได้ ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำเสนองาน ทางกรรมการให้เวลาในการพรีเซนต์แค่กลุ่มละ 3 นาที เท่านั้น ซึ่งเราต้องเรียบเรียงเนื้อหา นำเสนอโปรเจค และโน้มน้าวให้กับทางแบรนด์อินกับสิ่งที่เราคิดไปด้วย
ฟังดูน่าสนุกมาก แล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไงบ้างคะ รู้สึกยังไงกับการลงทุนลงแรงครั้งนี้ ?
กลุ่มเตยได้รางวัลชมเชยมาค่ะ จริง ๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ เพราะแต่ละทีมเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลย แต่พอผลออกมาได้รางวัลชมเชยก็ดีใจมาก แล้วผู้ตัดสินคือเจ้าของแบรนด์ เองเลย พอเราได้รางวัลเจ้าของแบรนด์ก็มาพูดคุยแสดงความยินดี
เรารู้สึกว่าการเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้คุ้มมากๆ มันเป็นอะไรที่ยาก คือทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็วให้เสร็จภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แทบไม่มีเวลาพักเลย แต่ในความยากมันก็รู้สึกสนุก และตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน แถมยังได้ประสบการณ์เยอะมาก เพราะเราได้ฝึกทำจริงๆ คือมัน real อะ ที่สำคัญทำให้เราได้รับรู้การคิดงานจากมุมมองของเพื่อนในกลุ่มที่มาจากคนละสาขา คนละประเทศ และเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ
มาพูดถึงเรื่องฝึกงานกันบ้างดีกว่า น้องเตยได้ไปฝึกงานที่ไหนคะ ?
เตยไปฝึกงานที่ Stamberga อยู่ประมาณ 2 เดือน เป็น selected shop ขายของเกี่ยวกับเครื่องเขียน และแมกกาซีน มีความอาร์ตๆ เราก็ได้ช่วยทุกอย่างเลย ทั้งทำ Online Strategy วางแผน และโปรโมตร้านค้าตามแพลตฟอร์ม Social Network ต่างๆ รวมถึงจัดอีเวนต์เปิดตัวสินค้าให้กับทางร้าน
แล้วการใช้ชีวิตในมิลานเป็นยังไงบ้าง เตรียมตัวอะไรก่อนไปไหม ?
ก่อนไปเตยเรียนภาษาอิตาเลียนไปนิดหน่อย เพราะ พี่ ๆ ก็แนะนำว่าข้างนอกมหาลัยพูดภาษาอังกฤษกันน้อย โดยเฉพาะถ้าชอบไปเที่ยวที่เมืองเล็ก ๆ แต่โดยส่วนใหญ่ เราไปเรียน และเที่ยวกับเพื่อน ๆ เลยใช้ภาษาอังกฤษกันเยอะ เพราะในห้องเรียนมีแต่เพื่อนต่างชาติ ส่วนการมีเพื่อนคนไทยบ้าง ทำให้เราไม่กลัวอะไรเลย ก็มีไปเที่ยวด้วยกันบ้าง เช่ารถขับลุยไปเมืองอื่น ๆ ด้วยกัน
อยู่ที่นั่นนี่ไม่มีเบื่อเลย พูดแล้วยังอยากกลับไปอยู่เลย การเดินทางง่ายมาก ไปเที่ยวสบาย ธรรมชาติสวยงาม แถมมีงาน Event Design ตลอดปี สนุก แฮปปี้มากๆ
สรุป การไปเรียน ป.โท เราได้อะไรกลับมาบ้างคะ ?
Lifestyle ที่มิลานทำให้เราช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น รู้จักวางแผนการเดินทางและค่าใช้จ่าย ทำให้เรามีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น เราสามารถนำองค์ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ระหว่างเรียน Business Design ที่ Domus Academy มาตลอดหนึ่งปีมาประยุกต์ใช้ได้เยอะมากๆ โดยเฉพาะกับงานของเรา ที่ต้องทำอีเว้นต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเสมอ ในปัจจุบันสิ่งที่คนรุ่นใหม่อยากไปสัมผัส นอกจากตัวงาน หรือผลิตภัณฑ์ คือ ประสบการณ์
การใช้ชีวิตอยู่ที่มิลาน อิตาลี ทำให้เราได้เห็นอะไรแปลกใหม่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะนิทรรศการ ดีไซเนอร์ แบรนด์ดังๆ มีทั้งงาน Design Week งาน Event เยอะมาก
การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นตลอด ทำให้เราซึมซับไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เข้ามา แล้วสิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานของเรา
แนะนำทุกๆคนจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณ คุณเตย สำหรับ บทสัมภาษณ์
Follow IG: orn_nicha
สนใจเรียนต่อ ปริญญาโท สาขา Business Design
สถาบัน Domus Academy, Milan Italy
ปรึกษาเราได้เลยนะคะ แนะนำโดยศิษย์เก่าจากทางสถาบัน ละเอียดทุกขั้นตอน บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย